มนุษย์ต้องการระยะเวลาในการนอนหลับอย่างมีคุณภาพไม่เท่ากันในเด็ก วัยรุ่น จนถึงอายุ 25 ปี ซึ่งส่งผลสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาสมอง
พี่ปุ๋มมาสรุปให้ต่อสำหรับการสัมภาษณ์ Prof.Matthew Walker 3 ช.ม.เต็มทางช่อง Rich Roll Channel ใน Youtube พี่วางลิงค์ไว้ให้แล้วนะคะ
สำหรับบทความตอนนี้ เป็นประโยชน์อย่างมากกับคุณพ่อคุณแม่ซึ่งมีลูกกำลังเข้าสู่วัยรุ่นค่ะ
ผลกระทบของการอดนอนเรื้อรังในเด็กและวัยรุ่น
Prof.Matthew กล่าวว่ามีการศึกษาเรื่องนี้จำนวนมากซึ่งเขาอยากจะแบ่งเป็นสองหัวข้อสำคัญคือ
A: การที่โรงเรียนส่วนใหญ่บนโลกนี้เริ่มต้นชั้นเรียนเช้ามาก กระทบต่อสุขภาพของเด็กและวัยรุ่นอย่างไร
เขากล่าวว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ต่อสู้กับการที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปลี่ยนเวลาเริ่มต้นชั้นเรียนจาก 7.30 น. เป็น 9.00 น.(เวลาที่เขาคิดว่าเหมาะสมจริงๆคือ 10.00 น.) แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล จากงานวิจัยพบผลกระทบของการอดนอนต่อความสามารถในการเรียนรู้และสุขภาพของเด็กและวัยรุ่นดังนี้
เราพบว่าเมื่อเลื่อนเวลาการเริ่มต้นชั้นเรียนออกไปเป็น 9.00 น. ผลลัพธ์คือ
1. ผลการเรียนซึ่งปรากฏเป็นเกรดนั้นดีขึ้น
2. อัตราการละทิ้งหน้าที่ในการเรียนลดลง
3. ความผิดปกติทางด้านจิตใจและด้านจิตเภทลดลง
4. ยืดอายุขัยของเด็กวัยรุ่นให้ยืนยาวขึ้น สำหรับพี่ข้อนี้สำคัญมาก ซึ่งพวกเราอาจจะสงสัยว่าเพราะอะไร Prof.Matthew กล่าวว่าสาเหตุการตายอันดับหนึ่งในวัยรุ่นตอนปลายไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่คืออุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งการอดนอนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก มีตัวอย่างที่ดีจาก Teton County ในรัฐ Wyoming ซึ่งโรงเรียนเลื่อนเวลาเริ่มต้นชั้นเรียนจาก 7.30 น. เป็น 9.00 น.พบว่า นอกจากเด็กๆรายงานเรื่องได้นอนเพิ่มขึ้นแล้ว ที่สำคัญพบว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์สำหรับเด็กอายุ 16-18 ปีลดลงถึง 70%
เราประดิษฐ์ ABS ติดตั้งในรถยนต์ ซึ่งช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ 20-25% มนุษย์ตื่นเต้นกันมากว่าเป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ แต่แค่นอนอย่างมีคุณภาพซึ่งเป็นปัจจัยทางชีวะวิทยาที่ง่ายมาก คือให้เด็กได้นอนเพิ่ม ก็สามารถที่จะลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ถึง 70% แต่เราก็ไม่ทำกัน
B: การนอนหลับมีความสำคัญยิ่งอย่างไรต่อการพัฒนาสมอง ในเรื่องนี้เขากล่าวว่า
“When sleep is abundant, Mind flourishs”
1. เรามีความเข้าใจไม่ถูกต้องในเรื่องจังหวะการนอนของเด็กที่เข้าสู่วัยรุ่น Prof.Matthew กล่าวว่า มีการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยาในเรื่องจังหวะการนอนในเด็กวัยรุ่นคือ “พวกเขาต้องการเข้านอนช้าลงและตื่นให้สายขึ้น” ซึ่งพ่อแม่ก็มักจะดุว่าลูกให้เข้านอนเร็วเนื่องจากพ่อแม่ก็ต้องตื่นเช้าเพื่อไปทำงานพร้อมกับส่งลูก
ดังนั้นการให้เด็กวัยรุ่นไปโรงเรียนแต่เช้า ก็เหมือนกับเขามีสมองที่รั่วใส่ความรู้อะไรเข้าไปก็ไหลออกหมดเก็บไว้ไม่ได้ เพราะเขานอนไม่พอ ที่สำคัญพ่อแม่มักจะคิดว่าลูกของตนนั้นนอนพอ โดยหารู้ไม่ว่ามีเพียงแค่ 15% ของเด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่นอนพอ ดังนั้นวันเสาร์-อาทิตย์พวกเขาจึงนอนเอาเป็นเอาตาย เพื่อหวังชดเชยการอดนอนซึ่งมันชดเชยไม่ได้ การนอนไม่สามารถฝากธนาคารเอาไว้ได้ค่ะ
2. การนอนมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความยืดหยุ่นของสมอง (Brain plasticity) Prof.Matthew ให้ความกระจ่างเรื่องนี้ว่าเราจะแบ่งความสำคัญของการนอนต่อการพัฒนาสมองออกเป็นสองช่วงอายุ
– ช่วงที่ 1 ตั้งแต่เกิด-5 ขวบ การนอนช่วยเชื่อมต่อเซลล์ประสาทสมองเข้าด้วยกัน การนอนมีบทบาทเหมือนเป็น Internet Service Provider เชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทข้างเคียงเข้าด้วยกัน ในช่วงระยะเวลานี้การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทจะเกิดขึ้นโดยทั่วสมอง ยังไม่มีความจำเพาะเจาะจงใดๆ เหมือนสร้างพิมพ์เขียวต้นแบบกลางๆเอาไว้
– ช่วงที่ 2 เป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่นจนถึงอายุ 25 ปี ช่วงเวลานี้ประสบการณ์ของเด็กแต่ละคนจะสอนสมองให้เลือกเส้นทางและพื้นที่ภายในสมองที่เขาต้องการจะส่งเสริมและกำจัดออกเพราะไม่จำเป็นสำหรับเขา ในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมีประสิทธิภาพของสมองซึ่งจะถึงจุด maturity ตอนอายุ 25 ปี
สุดท้ายสำหรับการสัมภาษณ์ช่วงนี้ Prof.Matthew แนะนำเว็บไซต์ sleepfoundation ซึ่งพี่ปุ๋มได้วางลิงค์ไว้ให้พวกเราตรงแหล่งข้อมูลแล้วค่ะ ซึ่งแนะนำระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุที่ไม่เท่ากันเลย เช่น
อายุ 6-13 ปี ต้องการการนอน 9-11 ช.ม.
อายุ 14-17 ปี ต้องการการนอน 8-10 ช.ม.
อายุ 18-25 ปี ต้องการการนอน 7-9 ช.ม.
ลองเข้าไปดูรายละเอียดเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆที่ดีเกี่ยวกับการนอนได้จากเว็บไซต์นี้ค่ะ
ในโพสต์หน้า มาติดตามกันนะคะว่า เราสามารถ HACK การนอนหลับได้หรือไม่ น่าสนใจมากๆค่ะ
1. เรามีความเข้าใจไม่ถูกต้องในเรื่องจังหวะการนอนของเด็กที่เข้าสู่วัยรุ่น Prof.Matthew กล่าวว่า มีการเปลี่ยนแปลงทางชีววิทยาในเรื่องจังหวะการนอนในเด็กวัยรุ่นคือ “พวกเขาต้องการเข้านอนช้าลงและตื่นให้สายขึ้น” ซึ่งพ่อแม่ก็มักจะดุว่าลูกให้เข้านอนเร็วเนื่องจากพ่อแม่ก็ต้องตื่นเช้าเพื่อไปทำงานพร้อมกับส่งลูก
ดังนั้นการให้เด็กวัยรุ่นไปโรงเรียนแต่เช้า ก็เหมือนกับเขามีสมองที่รั่วใส่ความรู้อะไรเข้าไปก็ไหลออกหมดเก็บไว้ไม่ได้ เพราะเขานอนไม่พอ ที่สำคัญพ่อแม่มักจะคิดว่าลูกของตนนั้นนอนพอ โดยหารู้ไม่ว่ามีเพียงแค่ 15% ของเด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่นอนพอ ดังนั้นวันเสาร์-อาทิตย์พวกเขาจึงนอนเอาเป็นเอาตาย เพื่อหวังชดเชยการอดนอนซึ่งมันชดเชยไม่ได้ การนอนไม่สามารถฝากธนาคารเอาไว้ได้ค่ะ
2. การนอนมีบทบาทสำคัญยิ่งต่อความยืดหยุ่นของสมอง (Brain plasticity) Prof.Matthew ให้ความกระจ่างเรื่องนี้ว่าเราจะแบ่งความสำคัญของการนอนต่อการพัฒนาสมองออกเป็นสองช่วงอายุ
– ช่วงที่ 1 ตั้งแต่เกิด-5 ขวบ การนอนช่วยเชื่อมต่อเซลล์ประสาทสมองเข้าด้วยกัน การนอนมีบทบาทเหมือนเป็น Internet Service Provider เชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทข้างเคียงเข้าด้วยกัน ในช่วงระยะเวลานี้การเชื่อมต่อสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาทจะเกิดขึ้นโดยทั่วสมอง ยังไม่มีความจำเพาะเจาะจงใดๆ เหมือนสร้างพิมพ์เขียวต้นแบบกลางๆเอาไว้
– ช่วงที่ 2 เป็นช่วงเข้าสู่วัยรุ่นจนถึงอายุ 25 ปี ช่วงเวลานี้ประสบการณ์ของเด็กแต่ละคนจะสอนสมองให้เลือกเส้นทางและพื้นที่ภายในสมองที่เขาต้องการจะส่งเสริมและกำจัดออกเพราะไม่จำเป็นสำหรับเขา ในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมีประสิทธิภาพของสมองซึ่งจะถึงจุด maturity ตอนอายุ 25 ปี
สุดท้ายสำหรับการสัมภาษณ์ช่วงนี้ Prof.Matthew แนะนำเว็บไซต์ sleepfoundation ซึ่งพี่ปุ๋มได้วางลิงค์ไว้ให้พวกเราตรงแหล่งข้อมูลแล้วค่ะ ซึ่งแนะนำระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมในแต่ละช่วงอายุที่ไม่เท่ากันเลย เช่น
อายุ 6-13 ปี ต้องการการนอน 9-11 ช.ม.
อายุ 14-17 ปี ต้องการการนอน 8-10 ช.ม.
อายุ 18-25 ปี ต้องการการนอน 7-9 ช.ม.
ลองเข้าไปดูรายละเอียดเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆที่ดีเกี่ยวกับการนอนได้จากเว็บไซต์นี้ค่ะ
บทความหน้า มาติดตามกันนะคะว่า เราสามารถ HACK การนอนหลับได้หรือไม่ น่าสนใจมากๆค่ะ
แหล่งข้อมูล :
1. Youtube Rich Roll สัมภาษณ์ Prof.Matthew Walker
2. คำแนะนำระยะเวลาการนอนที่เหมาะสมในประชากรตามอายุ