สรุปเล็คเชอร์ดี “The Gut Microbiota as a lever to improve human health” (ตอนสุดท้าย) โดย Assc.Prof.Erica Sonnenburg
Stanford Center for Clinical Research
เล็คเชอร์ของ Dr.Erica Sonnenburg จาก Stanford Center for Clinical Research นี้ จัดขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2563 เวลาเกือบ 2 ช.ม.ค่ะ
พี่จะสรุปโดยใช้เลขข้อกำกับ เพราะจะมีสไลด์จากเล็คเชอร์ของ Dr.Erica ประกอบความเข้าใจในข้อนั้นด้วยค่ะ
ขอบเขตของเล็คเชอร์มี 3 หัวข้อ พี่สรุปหัวข้อที่ 1 และ 2 ไปแล้ว บทความนี้จะสรุปหัวข้อที่ 3 ซึ่งเลคเชอร์เฉพาะตอนที่ 3 กินเวลาราวๆ 1 ช.ม.ค่ะ พี่จึงต้องสรุปทั้งหมด 4 ตอนจึงจะไม่ยาวเกินไปในแต่ละบทความ
1. เพราะอะไรประชากรจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารจึงสำคัญมากต่อสุขภาพมนุษย์
2. ประชากรจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารส่งอิทธิพลต่อสุขภาพได้อย่างไร
3. เราสามารถส่งเสริมประชากรจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารเพื่อปรับปรุงสุขภาพมนุษย์ได้อย่างไร
ลิงค์บทความเก่าสรุปเล็คเชอร์ตอนที่ 1 และ 2 พี่ปุ๋มวางไว้ให้สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้ามาอ่านนะคะ
เราสามารถส่งเสริมประชากรจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารเพื่อปรับปรุงสุขภาพมนุษย์ได้อย่างไร
ในตอนที่ 3 ได้ข้อสรุปจากงานวิจัยชื่อ “How does a high fiber diet affect the human microbiome and immune system?” ว่า
1. ช่วยปรับปรุงการได้รับสารอาหารเช่น
วิตามินและเกลือแร่เพิ่มขึ้น
2. ประชากรจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารมีการเปลี่ยนไปเป็นสายพันธุ์ที่ย่อยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมากขึ้น
3. เพิ่มความหนาแน่นและการทำหน้าที่ของประชากรจุลินทรีย์ที่ผลิตกรดไขมันสายสั้นชนิดดี
4. การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในรูปของการลดภาวะอักเสบเมื่อได้รับใยอาหารสูง มีความเฉพาะตัวขึ้นกับความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ที่จุดเริ่มต้น
ในตอนสุดท้ายนี้ Dr.Erica สรุปงานวิจัยอีก 2 ฉบับ คือ “Gut-microbiota-targeted diets modulate human immune status” ตีพิมพ์ในวารสาร Cell เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564 นี้เอง ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับที่พี่เพิ่งสรุปบทความไปเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว พี่ไม่สรุปซ้ำ น้องๆลองกลับไปอ่าน บทความนี้ กันค่ะ
แต่งานวิจัยฉบับที่น่าสนใจในการสรุปเล็คเชอ์ช่วงสุดท้ายของ Dr.Erica คือ
“ทานโปรไบโอติกเสริม สามารถที่จะให้ผลลัพธ์ในการเพิ่มความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ และลดการอักเสบภายในร่างกายได้เหมือนกับอาหารหมักด้วยจุลินทรีย์หรือไม่”
1. ทำวิจัยในผู้ที่มีกลุ่มอาการทาง Metabolic Syndromes
ในงานวิจัยฉบับนี้ทำในผู้ที่มีกลุ่มอาการทาง Metabolic Syndromes จำนวน 28 คน แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม
กลุ่มที่หนึ่ง 14 คนได้รับโปรไบโอติก (Intervention Group)
กลุ่มที่สอง 14 คนได้รับอาหารหลอก (Placebo group) โปรโตคอลมีช่วงเวลาดังนี้
Baseline period : 4 สัปดาห์
Intervention period : 10 สัปดาห์
Wash out period : 4 สัปดาห์
มีการเก็บอุจจาระสัปดาห์ที่ -4, -2, 0, 2,4,6,8,10,14
เก็บตัวอย่างเลือดสัปดาห์ที่ -3, 0, 4,6,8,10,14
สิ่งที่ต้องการศึกษาคือ
1.1 โปรไบโอติกสามารถปรับปรุงความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ได้หรือไม่
1.2 โปรไบโอติกลดการอักเสบภายในร่างกายได้หรือไม่
3. โปรไบโอติกลดความรุนแรงของกลุ่มอาการ Metabolic Syndromes ได้หรือไม่ (รูปที่ 1)

พี่พยายามหาชื่องานวิจัยเต็มจากเล็คเชอร์ไม่พบนะคะ เข้าไปดูใน google scholar ของ Justin and Erica Sonnenburg มีงานวิจัยเยอะมาก ไม่อยากหยิบผิดฉบับมาค่ะ
2.1 โปรไบโอติกไม่เปลี่ยนแปลงความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ และยังพบว่า
2.2 ในกลุ่มที่ได้โปรไบโอติก ช่วง baseline ต่อเนื่องไปถึงช่วงแรกของ Intervention นั้น ความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์กลับลดลง
2.3 ซึ่ง Dr.Erica อธิบายความเป็นไปได้เรื่องนี้ว่า ประชากรจุลินทรีย์ประจำถิ่นอาจรับรู้ว่ามีจุลินทรีย์ใหม่แปลกปลอมเข้ามา แต่เมื่อเวลาผ่านไปความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ก็กลับมาสู่จุดเดิม (รูปที่ 2)

3. ผลลัพธ์คือโปรไบโอติกไม่ได้มีผลในการลดภาวะอักเสบ
ผลลัพธ์ต่อมาคือโปรไบโอติกไม่ได้มีผลในการลดภาวะอักเสบ เพราะไม่ได้ลดระดับสารอักเสบกลุ่ม cytokines ที่วัดหลากหลายชนิดเมื่อเทียบกับกลุ่ม Placebo ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ต้นจนจบระยะเวลาของโปรโตคอลงานวิจัย (รูปที่ 3)

4. เมื่อแยกผลวิเคราะห์เป็นรายบุคคลพบว่า
4.1 ในกลุ่มที่ได้รับโปรไบโอติก มีบางคนที่มีระดับไตรกลีเซอไรด์ลดลงและมีความไวของอินซูลินดีขึ้น ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกการปรับปรุงกลุ่มอาการ Metabolic Syndromes
4.2 เมื่อนักโภชนาการวิเคราะห์รายงานอาหารที่รับประทานพบว่า ในบุคคลที่ตอบสนองต่อโปรไบโอติกมีการปรับปรุงไตรกลีเซอไรด์และความไวของอินซูลินได้ดีนั้น เป็นคนที่กินอาหารคุณภาพดีกว่าคนที่ไม่ตอบสนอง กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในปริมาณสูงกว่าคนที่ได้รับโปรไบโอติกแต่ไม่ตอบสนอง โดยวัดจากระดับวิตามินและเกลือแร่ในตัวอย่างเลือด (น่าสนใจมาก) (รูปที่ 4)

5. เปรียบเทียบ 2 งานวิจัย
ในขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับงานวิจัยอาหารหมักด้วยจุลินทรีย์ที่พี่ปุ๋มเพิ่งสรุปไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค.นั้น พบว่า อาหารหมักด้วยจุลินทรีย์สามารถเพิ่มความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ และลดภาวะอักเสบภายในร่างกายได้ในทุกคนที่เข้าร่วมงานวิจัย โดยไม่ขึ้นกับประชากรจุลินทรีย์เริ่มต้นหรือภาวะอักเสบเริ่มต้นเลย
6. Final take home message จาก Dr.Erica
6.1 จุลินทรีย์ส่วนใหญ่ดีต่อร่างกายมีส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นอันตราย
6.2 อาหารหมักด้วยจุลินทรีย์อาจสามารถใช้เพื่อชดเชย จุลินทรีย์ที่ถูกทำลายจากสารเคมีที่มนุษย์ใช้เพื่อให้เกิดสุขอนามัยเกินเหตุได้
6.3 อาหารหมักด้วยจุลินทรีย์ปรับปรุงความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์และลดภาวะอักเสบภายในร่างกาย
6.4 โปรไบโอติกอาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกายได้ก็ต่อเมื่อคุณภาพของอาหารที่กินเป็นประจำดีด้วย และสุดท้าย
6.5 การผสมผสานอาหารที่มีใยอาหารสูงร่วมกับอาหารหมักด้วยจุลินทรีย์อาจจะเป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์สูงสุด (รูปที่ 6)
7. จัดการการใช้ชีวิตของตัวเองแบบองค์รวม
สุดท้ายพี่ปุ๋มอยากเน้นมากๆ เพราะนักวิจัยสายประชากรจุลินทรีย์พูดเหมือนกันว่า เราไม่ควรมองร่างกายแยกส่วน (Reductionist)ใช้อาหารเสริมแก้ปัญหาสุขภาพเป็นจุดๆโดยไม่จัดการการใช้ชีวิตของตัวเองแบบองค์รวม (One Health)ให้สอดคล้องกับนาฬิกาชีวภาพ ถ้าจำกันได้ Prof.Tim Specter, Prof.Rob Knight, Assc.Prof.Erica Sonnenburg, Prof.Emeran Mayor พูดไปในทิศทางเดียวกันหมดว่า สุขภาพคือ One Health ที่เกี่ยวพันกันทั้งประชากรจุลินทรีย์ในดิน ในน้ำ ในอากาศ และในร่างกายสิ่งมีชีวิต เราไม่สามารถที่จะมีสุขภาพดีได้แต่เพียงลำพัง โดยที่สุขภาพดิน สุขภาพน้ำ และสุขภาพอากาศแย่ และปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดในการเพิ่มความหลากหลายของประชากรจุลินทรีย์ในทางเดินอาหารคือการกินพืชที่ได้ดินดี น้ำดี อากาศดี ที่หลากหลายมากกว่า 30 ชนิดในหนึ่งสัปดาห์

เป็นอันว่าพี่ปุ๋มสรุปเล็คเชอร์ดีของ Dr.Erica Sonnenburg 2 ช.ม.เต็ม 4 ตอนครบเรียบร้อย สุขภาพดีต้องใช้ชีวิตเชื่อมโยง อาทรกับทุกสรรพสิ่งในลักษณะที่เป็น One Health ค่ะ
ขอความมีสุขภาพกายใจที่ดี จงสถิตเป็นทรัพย์สินที่มั่งคั่งสำหรับทุกคน
แหล่งข้อมูล :