ในไลฟ์ #33 (เรื่อง Exercise won’t make you thin but it will make you ALIVE ตอนจบ พี่วาง Link YouTube ทั้ง 2 ตอนที่ด้านล่างบทความ สำหรับน้องๆที่ยังไม่ได้ชม) พี่อ้างอิงถึงเลคเชอร์ที่ดีมาก โดย Prof. Dr.Daniel E. Lieberman ซึ่งเลคเชอร์ให้กับ School of Advance Research (SAR) เรื่อง “Why Exercise Really is the Best Medicine” พี่เลยนำลิงค์มาวางไว้ให้ผู้ที่สนใจได้เข้าไปฟังกันนะคะ ความยาว 1 ช.ม. 18 นาที
น้องๆจะได้เข้าใจว่า เพื่อสร้าง Fitness ของมนุษย์ ซึ่งหมายถึงการเพิ่มโอกาสที่จะอยู่รอด และสืบพันธุ์ส่งต่อพันธุกรรมไปยังรุ่นต่อไป วิวัฒนาการจะ adapted ร่างกายอย่างไร เพื่อให้มนุษย์ fitness ซึ่ง Prof.Daniel ตั้งสมมุติฐาน adaptation ตามวิวัฒนาการไว้ 2 อย่างคือ
1. การเป็นนักเดินทน
มนุษย์วิวัฒนาการ ขึ้นมายืน 2 ขา เพื่อสงวนพลังงานเมื่อเทียบกับไพรเมทอื่น เช่นลิงชิมแพนซี ซึ่งเดินด้วยการใช้ข้อนิ้ว (Knockle) ทำให้เดินทางได้ช้า และเสียพลังงานมากกว่ามนุษย์ซึ่งวิวัฒนาการมาเดิน 2 ขา มนุษย์จึงเป็นนักเดินทน (Endurance Walker)
2. การเป็นนักวิ่งทน
มนุษย์มีวิวัฒนาการมาเพื่อเป็นนักวิ่งทน (Endurance Runner) และระบายเหงื่อออกทางรูขุมขนทั่วร่างกาย ทำให้สามารถวิ่งตามสัตว์ที่กำลังล่าได้ไกล จนสัตว์จนมุม เนื่องจากสัตว์จะระบายเหงื่อออกด้วยการอ้าปาก ซึ่งการระบายความร้อนไม่ดีเท่ามนุษย์ ทำให้สัตว์จนมุม และมนุษย์ยุคบรรพชนก็จะใช้หอกหรือธนูที่มียางพิษอาบอยู่ยิงไปยังสัตว์ซึ่งหนีต่อไม่ไหว

การใช้ชีวิตผิดจากการวิวัฒนาการต้นเหตุของโรคเรื้อรัง
มนุษย์มีวิวัฒนาการมาเพื่อเป็นนักวิ่งทน (Endurance Runner) และระบายเหงื่อออกทางรูขุมขนทั่วร่างกาย ทำให้สามารถวิ่งตามสัตว์ที่กำลังล่าได้ไกล จนสัตว์จนมุม เนื่องจากสัตว์จะระบายเหงื่อออกด้วยการอ้าปาก ซึ่งการระบายความร้อนไม่ดีเท่ามนุษย์ ทำให้สัตว์จนมุม และมนุษย์ยุคบรรพชนก็จะใช้หอกหรือธนูที่มียางพิษอาบอยู่ยิงไปยังสัตว์ซึ่งหนีต่อไม่ไหว
การที่ร่างกายมี adaptation มามีกิจกรรมทางกายเพื่อความอยู่รอดในช่วงเวลาที่มีแสง และเพื่อสืบพันธุ์นี้ สร้างความแข็งแกร่งให้เครื่องจักรที่เรียกว่าร่างกาย ดังนั้น โรคเรื้อรังที่เกิดขึ้นในมนุษย์ยุคปัจจุบัน จึงเกิดจากมนุษย์ไม่จำเป็นต้องใช้กิจกรรมทางกายมากนักเพื่อความอยู่รอด
วัฒนธรรมที่มนุษย์สร้าง เช่นวัฒนธรรมการนั่งทำงานทั้งวัน วัฒนธรรมใช้สมองมากกว่าร่างกาย วัฒนธรรมการสร้างและใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลิตผล วัฒนธรรมการบริโภคอาหารสำเร็จรูป สแน็ค วัฒนธรรมการใช้หลอดไฟเพื่อให้แสงสว่างตลอดทั้งวันและคืน ฯลฯ ทำให้เกิด mismatch ระหว่าง วิวัฒนาการ กับ วัฒนธรรมที่มนุษย์สร้าง นำไปสู่การบริโภคล้นเกิน การไม่มีกิจกรรมทางกายระหว่างวัน การพึ่งพาพลังงานภายนอก (น้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า) มากกว่าพึ่งพาพลังงานภายในร่างกาย
Prof.Daniel กล่าวว่า โรคไม่ติดเชื้อเรื้อรังที่มนุษย์ประสบอยู่ในปัจจุบัน เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดัน ไขมันพอกตับ หัวใจ ไขมันในเลือดสูง อัลไซเมอร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากร่างกายไม่ได้ถูกใช้งานในแบบที่ถูก adapted ผ่านวิวัฒนาการมานั่นเอง